มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) เป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนที่ขึ้นทะเบียนไว้กับคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มูลนิธิดำเนินงาน
ของตนโดยอิสระโดยไม่มีฐานะเป็นตัวแทน หรือปากเสียงเพื่อผลประโยชน์ของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
หากแต่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสิทธิมนุษยชนที่มีลักษณะเป็นสากล แบ่งแยกไม่ได้และพึ่งพาและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งนี้
สิทธิมนุษยชนนั้นให้รวมถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมด้วย
มูลนิธิดำเนินโครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ รวมถึงคุ้มครอง
เยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยการเผยแพร่ อบรม และให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายให้แก่ผู้ที่ตกเป็น
ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงความยุติธรรม
กิจกรรมหนึ่งในโครงการดังกล่าว คือ การร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำคู่มือสำหรับเจ้าหน้าที่
ในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมี พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ ๑๐)
(ด้านสืบสวน) เป็นประธานคณะทำงานจัดทำคู่มือ และมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน ได้แก่ ผู้แทน
จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สำนักงาน
ตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า ทัพเรือภาคที่ ๑ กรมคุ้มครองสิทธิ
และเสรีภาพ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน
และปราบปรามการค้ามนุษย์ จนทำให้การจัดทำคู่มือฉบับนี้สำเร็จลงได้
มูลนิธิขอขอบพระคุณผู้แทนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนดังกล่าวข้างต้นซึ่งให้ความร่วมมือในการจัดทำ
คู่มือฉบับนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอขอบคุณพลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานในการประชุม
จัดทำคู่มือ รวมถึงเป็นวิทยากรในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อนุเคราะห์สถานที่และ
ประสานงานการจัดประชุมมาโดยตลอด ขอขอบพระคุณนายประวิทย์ ร้อยแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานต่าง
ประเทศสำนักงานอัยการสูงสุด และพันตำรวจเอก ปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการ
กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ให้คำแนะนำทั้งเนื้อหาและกระบวนการจัดทำคู่มือ และขอขอบพระคุณ
นางสาววาสนาเก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ซึ่งเป็นที่ปรึกษาร่วมวางแผนงานการจัดทำคู่มือมา
ตั้งแต่ต้น และเป็นตัวกลางสำคัญในการประสานคณะทำงานจัดทำคู่มือฉบับนี้ ทำให้สามารถรวบรวมผู้มีความรู้
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ร่วมกันจัดทำคู่มือจนประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้มูลนิธิขอขอบคุณองค์การระหว่าง
ประเทศ ได้แก่American Center for International Labor Solidarity (Solidarity Center) ที่ให้ทุนสนับสนุน
และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ซึ่งสมทบงบประมาณในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ
รวมถึงขอขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งสนับสนุนงบประมาณในการจัดพิมพ์
คู่มือเพื่อเผยแพร่ให้แก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
มูลนิธิหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานร่วมกันระหว่างสหวิชาชีพ เพื่อป้องกัน
และปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นายโคทม อารียา
ประธานมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา