Wednesday April 24, 2024
News Feeds:
จดหมายเปิดผนึกร้องรัฐบาลไทยดูแลแรงงานพม่าอพยพหนีภัยน้ำท่วมและประสานรัฐบาลพม่า PDF Print E-mail
Friday, 04 November 2011 00:00

 

เรื่อง     เรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าอพยพกลับประเทศเนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง และให้กำหนดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมโดยประสานความร่วมมือกับรัฐบาลพม่าอย่างใกล้ชิด

เรียน     ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก

จากการรายงานข่าวของสำนักข่าว เดอะ เนชั่น (The Nation) เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึงกรณีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าอพยพกลับประเทศพม่า เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง เแหล่งข่าวรายงาน ว่าช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าจำนวนกว่า ๓๐,๐๐๐ คน ถูกกักตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งนี้แรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่ากลุ่มนี้เป็นแรงงานที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งหาทางกลับประเทศพม่า เนื่องจากผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในการกักตัวนั้นแรงงานกล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารและน้ำ รวมถึงจำนวนคนที่มากจนล้นพื้นที่ของด่าน นอกจากนี้แหล่งข่าวกล่าวอ้างถึงกลุ่มคนที่ให้การช่วยเหลือแรงงาน ซึ่ง ปรากฎรายงานว่าแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าเดินทางกลับประเทศพม่า เป็นจำนวนมาก ราว ๑,๐๐๐ คนต่อวันนั้น ซึ่งเดินทางโดยรถบรรทุกออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองสมุทรสาคร ทั้งนี้ แรงงานต้องจ่ายค่าเดินทางคนละ ๒,๔๐๐ บาท เพื่อเดินทางไปยังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (รายละเอียดข่าว สามารถอ่านได้ที่http://www.nationmultimedia.com/national/Burmese-hungry-30168959.html) อีกทั้งยังมีรายงานข่าวของสำนักข่าว  Irrawaddy กรณีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าผู้ประสบอุทกภัยจำนวนมากถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวโดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามด่านตรวจต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการเดินทางไปยังชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (รายละเอียดข่าวสามารถอ่านได้ทีhttp://www.irrawaddy.org/article.php?art_id=22366)

            มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา(มสพ.) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน มสพ. ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ไม่ปรากฏว่ามีการกักตัวแรงงานข้ามชาติจำนวนมากตามรายงานข่าว แต่ปรากฏแรงงานชาติจำนวนมากเดินทางกลับประเทศพม่า โดยปัญหาและข้อเท็จจริงมีความสอดคล้องกับข้อมูลที่เผยแพร่ในรายงานข่าวของสำนักข่าวเดอะเนชั่น (The Nation) ดังนี้ แรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าประสงค์จะเดินทางกลับประเทศผ่านชายแดนแม่สอดจำนวนมาก ซึ่งปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีแรงงานจำนวน ๑,๐๐๐ คนต่อวันเดินทางกลับประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด แต่ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับนั้นต้องมีกระบวนการสอบเพื่อทำประวัติ และประกอบกับมีแรงงานข้ามชาติสัญชาติพม่าจำนวนมาก จำนวนนี้รวมถึงแรงงานหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ แรงงานจึงต้องรอเป็นระยะเวลานาน ซึ่งทาง มสพ. ได้รับแจ้งข้อมูลว่าระหว่างรอกระบวนการทำประวัตินั้น ไม่ปรากฏว่าทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอดจัดสวัสดิการอาหารและน้ำดื่มให้กับแรงงานกลุ่มนี้ รวมถึงการส่งแรงงานกลับประเทศนั้นยังเกิดอุปสรรคในส่วนของเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศพม่า ซึ่งมีจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อกระบวนการ ส่งผลให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สอดต้องชะลอการส่งกลับ การส่งกลับแรงงานจึงดำเนินขึ้นในช่วงเวลา ๑๗.๐๐ น. ต่อเนื่องจนกระทั้งเวลากลางคืน

 

            เนื่องด้วยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงนั้นส่งผลกระทบต่อภาคแรงงานทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ซึ่งการอพยพของแรงงานนั้นเกิดอุปสรรคหลายประการทั้งค่าใช้จ่าย เส้นทางการเดินทาง และที่พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของแรงงานข้ามชาตินั้นมีข้อจำกัดในส่วนของการเดินทางและที่พักอาศัย รวมถึงกรณีที่แรงงานข้ามชาติประสงค์จะเดินทางกลับประเทศโดยปลอดภัยนั้นต้องผ่านด่านทางการระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่าซึ่งได้กำหนดข้อตกลงระหว่างกันไว้ ส่งผลให้เมื่อเกิดกรณีภัยพิบัติและปรากฏจำนวนแรงงานข้ามชาติเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก กระบวนการโดยปกติจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการในภาวะจำเป็นและฉุกเฉิน ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงดูและความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางกลับแก่แรงงานข้ามชาติในกรณีภัยพิบัติเช่นนี้ นอกเหนือจากหลักการและมาตรฐานของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการแล้ว ยังเป็นการให้ความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน ดังนั้น มสพ. จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและโดยเฉพาะย่างยิ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวดำเนินการตามข้อเสนอ ดังนี้

 

๑. กรณีการจัดสวัสดิการ เนื่องจากแรงงานข้ามชาติต้องรอกระบวนการทำประวัติเป็นระยะเวลานานที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สอด ซึ่งแรงงานเหล่านี้ลี้ภัยจากผลกระทบน้ำท่วมในประเทศไทย ดังนั้น ในระหว่างรอกระบวนการทำประวัติและส่งกลับนั้น รัฐบาลควรจัดสวัสดิการด้านอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอ รวมถึงจัดสถานที่พักพิงสำหรับรองรับแรงงาน ทั้งนี้ในกรณีหญิงมีครรภ์ เด็ก และผู้ป่วย รัฐบาลควรจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และหลักสิทธิมนุษยชนเป็นเบื้องต้น

๒. กรณีการจ่ายค่าเดินทาง เนื่องจากการเดินทางของแรงงานครั้งนี้มีจำนวนมาก การบริการตามปกติจึงอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการและความจำเป็นของเหตุการณ์ ซึ่งส่งผลให้มีกระบวนการเรียกเงินเพื่อเอารัดเอาเปรียบแรงงานโดยไม่มีทางต่อรองได้ รัฐบาลควรเพิ่มรอบการบริการส่งกลับและตรวจตราการเรียกเก็บค่าเดินทางเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์อุทกภัย

๓. กรณีการส่งกลับ เนื่องจากกระบวนการต้องใช้ระยะเวลานานดังข้อเท็จจริงข้างต้น การส่งกลับทั้งการเดินทางจากพื้นที่อื่นมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สอด และการเดินทางจากด่านแม่สอดไปยังประเทศพม่าในเวลากลางคืนนั้น อาจเกิดกรณีแอบอ้างหรือหาผลประโยชน์จากแรงงาน ซึ่งการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบดังกล่าวอาจกระทำโดยบุคคลภายนอก หรืออาจมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการดังกล่าว รัฐบาลควรประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่อำเภอแม่สอด และหน่วยงานของรัฐบาลพม่า เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดข้างต้น รวมถึงคุ้มครองสวัสดิภาพของแรงงานในกระบวนการส่งกลับประเทศพม่าอย่างปลอดภัย

๔. รัฐบาลควรกำหนดนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมในการให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติผู้ประสบอุทกภัย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงรัฐบาลพม่า เนื่องจากหลายกรณีที่เอกสารบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทางของแรงงานสูญหายหรือถูกนายจ้างยึดไว้ ประกอบกับไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และความหวาดกลัวต่อการถูกจับกุม ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือ

 

มสพ. ยินดีต่อนโยบายของรัฐบาลไทยกรณีผ่อนผันกฏระเบียบต่างๆเพื่อให้แรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้และการที่รัฐบาลได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติผู้ประสบอุทกภัย อย่างไรก็ตามเนื่องจากการขาดนโยบายที่เป็นรูปธรรมและขาดการประสานงานที่ทั่วถึง จึงยังคงพบปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวข้างต้น ดั้งนั้นรัฐบาลควรประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประสานความร่วมมือกับรัฐบาลพม่าอย่างใกล้ชิดเพื่อคุ้มครองแรงงานให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้และป้องกันการแสวงประโยชน์โดยมิชอบในระหว่างเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้

 

ขอแสดงความนับถือ

มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)

 

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:

1. นางสาวปรียาภรณ์ ขันกำเหนิด ผู้อำนวยการโครงการยุติธรรมเพื่อแรงงานข้ามชาติ โทร 086 340 8390 email:  This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

2. Sein Htay ผู้ประสานงานโครงการยุติธรรมเพื่อแรงงานข้ามชาติ สมุทรสาคร โทร 0830139736 email: This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

3. นางสาวทิพวรรณ เดชพิทักษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย คลีนิคกฎหมายแรงงานแม่สอด โทร 0857319146email:  This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 
Copyright © 2024. Anti Labor Trafficking - โครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน.