ปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ เป็นปัญหาที่กี่ยุคกี่สมัยก็แก้ไม่ได้ เพราะความแตกต่างของเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของต่างด้าว ทำให้พวกเขาขวนขวาย ทำทุกวิถีทาง ให้ได้เข้ามาทำงานบนผืนแผ่นดินไทย 

ล่าสุด ตำรวจปคม.บุกทลายจับกุม จุดพักแรงงานต่างด้าว ที่จ.สุพรรณบุรี บ้านพัก 7 หลัง ติดลูกกรงแน่นหนา มีสุนัขและคนคุม สาวลึกขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว 

การเข้ามาหางานทำของแรงงานต่างด้าว ใช่ว่าจะสะดวกสบายอย่างที่คิด เพราะบางครั้งการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฏหมาย แรงงานต่างด้าวเสี่ยงที่อาจจะถูกนายหน้าหลอกไปขายบริการทางเพศ ถูกกดขี่ค่าแรง อย่างเช่นกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้น

หลังหญิงชาวพม่า เข้าร้องมูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า และตำรวจ ปราบปรามการกระทำผิดการค้ามนุษย์ หรือ ปคม.ว่า ถูกกลุ่มนายหน้าขบวนการขนแรงงานต่างด้าว เรียกไถ่ค่าตัวลูกสาวและลูกเขยในราคา 30,000 บาท หากไม่ให้ ก็จะส่งลูกสาวไปขายซ่อง และลูกเขยลงเรือประมง ผู้เป็นแม่จึงโอนเงินไปให้แล้ว แต่กลุ่มนายหน้ายังไม่พอใจเรียกเงินเพิ่มอีก 35,000 ไม่ทันจะโอนเงินให้ นายหน้าก็ส่งลูกเขยไปให้ไต๋ก๋งเรือ แถวคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจ ปคม.จึงนำกำลังไปช่วยเหลือออกมาได้ 

ขยายผลต่อพบว่า ยังมีแรงงานต่างด้าวอีกจำนวนมาก ถูกกักขังที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลบ้านสระ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี จึงนำกำลังบุกเข้าค้นพบแรงงานพม่าชาย-หญิง 54 คน ถูกขังไว้ในคอกไก่ แต่ละคนมีสภาพที่อิดโรยบ้านพักมีอยู่ 7 หลังในอาณาเขตเดียวกัน ติดเหล็กดัดแน่นหนารอบบ้าน ไม่ต่างจากคุก โดยจะแบ่งแยกกันอยู่ชาย-หญิง

ผู้ต้องหา 4 คนคือนายจำลอง ทองประสพ, นายสมประสงค์ ทองประสพ, นายคมกฤช ทองประสพ เจ้าของบ้าน ถูกตั้งข้อหานำพาและให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โทษจำคุก 5 ปีปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วน นายพรายเพชร ทองประสพ ถูกตั้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกค่าไถ่แต่ทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินคดีการค้ามนุษย์หรือไม่ อยู่ในขั้นตอนขยายผล ว่าเข้าข่าย 8 มูลฐานความผิด ตาม พรบ.การค้ามนุษย์ 2551 

1.การแสวงประโยชน์จากการค้าประเวณี 
2.การแสวงหาประโยชน์ทางเพศรูปแบบอื่นๆ
3.การนำคนมาขอทาน
4.การบังคับตัดอวัยวะเพื่อการค้า 
5.การเอาคนลงเป็นทาส
6.การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ
7.การอื่นใดที่คลายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคล
8.การผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก
ซึ่งทั้งหมดนี้มีโทษ 15 ปี

ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่า บ้านซึ่งเป็นแหล่งพักพิงของแรงงานต่างด้าวในครั้งนี้ อยู่ไกลจากชุมชน ชาวบ้านในในละแวกนี้ยอมรับว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการนำแรงงานต่างด้าวมากบดานอยู่ในหมู่บ้านของพวกเขา

ชาวบ้านยืนยันว่า เจ้าของบ้านที่โดนตำรวจบุกค้นนั้นเป็นคนนอกพื้นที่ และไม่ค่อยมาสุงสิงกับเพื่อนบ้าน ทำให้ไม่มีใครกล้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ก็ยอมรับว่า เคยเห็นรถยนต์และรถตู้วิ่งเข้า-ออก อยู่เป็นประจำแต่ไม่สงสัย เพราะเส้นทางนี้
เข้า-ออกทะลุได้หลายทาง

ตำรวจ ปคม.ระบุ ขบวนการนี้ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวรายใหญ่ และทำมานานแล้ว ซึ่งจะมีนายหน้าแฝงตัวอยู่ตามตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะที่แม่สอด จังหวัดตาก เมื่อชาวพม่าคนใด อยากจะเข้ามาหางานทำในเมืองไทย ก็จะติดต่อผ่านมา 
เรียกเก็บเงินก่อน 3,000 บาท หรือไม่ก็เก็บเงินปลายทาง ค่าหัวรายละ 15,000-18,000 บาท 

วิธีหลบหลีกการตรวจจับนั้น พบว่า จะมีการนำแรงงานต่าวด้าวบรรทุกมากับรถกระบะ ที่ดัดแปลงสภาพให้บรรทุกได้จำนวนมากๆ แล้วใช้ผ้ายางคลุมทับ หรือไม่ก็บรรทุกมากับรถแช่แข็ง อัดซ้อนๆ กันมาหลายๆ คน จนหลายครั้งก็เกิดปัญหาแรงงาน
ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต

เมื่อรับคนงานต่างด้าวมาแล้ว ขบวนการนี้ก็จะขับรถหลบหลีกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ไปตามถนนสายรองวิ่งผ่าน จ.ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ล่องมาเรื่อยๆ จนถึงจุดพักแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะซ่องสุมอยู่ตามจังหวัดปริมณฑล รอบๆ
กรุงเทพ เช่น อยุธยา ปทุมธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี

เจ้าหน้าที่ยอมรับ สาเหตุที่ปัญหานี้กวาดล้างไม่หมด เพราะรายได้จากการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาแต่ละครั้งจำนวนมาก เป็นสิ่งล่อใจให้ขบวนการนี้ยอมเสี่ยงและหาวิธีการตบตาเจ้าหน้าที่แยบยลมาขึ้น 

เพราะความยากจน ทำให้แรงงานชาวพม่าดิ้นรน มาหางานทำในประเทศไทย ถูกชักชวนมาผ่านนายหน้า แต่หลายคร้งกลับพบว่า ถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำงานอย่างอื่นที่ตนเองไม่ต้องการ หรือไม่ก็ถูกนายจ้างเอาเปรียบค่าจ้าง 

ตรงกับข้อมูลของมูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า ที่ระบุว่า แต่ละวันมีแรงงานชาวพม่าโทรศัพท์ และเข้ามาขอความช่วยเหลือตกวันละ 3-4 ราย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องถูกกดขี่ค่าจ้าง ถูกนายจ้างยึดเอกสารการเดินทาง บังคับค้าประเวณี ถูกทำร้ายร่างกาย และถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งทางมูลนิธิพยายามจะให้ความช่วยเหลือ แต่บางครั้งแรงงานก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตน กลัวจะถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับส่งกลับประเทศ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ก่อนแรงงานชาวพม่า จะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยควรศึกษา หาข้อมูลรายละเอียดสถานที่ที่จะไปทำงานให้ดีก่อน

นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมุ่งสกัดกั้นขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว ประชาชนคนไทยเอง ต้องไม่เห็นแก่เงิน ผลประโยชน์ส่วนตน เพราะอย่าลืมว่า ทุกวันนี้แรงงานต่างด้าวพากันตบเท้ามาปักหลักตั้งรกรากในเมืองไทยเป็นล่ำเป็นสัน และส่วนใหญ่กลับพบ เป็นแรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ 

ที่มา: http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=146088